อำนาจ ลูกจันทร์
หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ เป้า คาราบาว เกิดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2492
ที่กรุงเทพมหานคร เป็นอดีตมือกลองของวงคาราบาว
โดยเป็นมือกลองคนแรกของวง และเคยออกอัลบั้มเพลงร่วมกับเทียรี่ เมฆวัฒนา เป้า คาราบาว
เป็นคนที่มีรูปร่างเล็ก มีส่วนสูงต่ำกว่า 160 เซนติเมตร เป้า จบการศึกษาชั้นมัธยมจากโรงเรียนพระโขนง (ปัจจุบันคือโรงเรียนพระโขนงพิทยาลัย)
จากนั้นได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนดุริยางค์ทหารเรือ
และเริ่มต้นชีวิตนักดนตรีครั้งแรกด้วยการรับราชการในกองดุริยางค์ทหารเรือ ได้รับยศ จ่าเอก (จ.อ.)
มีหน้าที่สอนดนตรีประเภทเครื่องตี
และใช้เวลาว่างจากรับราชการมาเล่นตามคลับและบาร์ต่าง ๆ ในเวลากลางคืน
นอกจากนี้ในช่วงบ่ายยังเป็นนักดนตรีเล่นแบ็คอัพในห้องอัดเสียงต่างๆ
โดยเริ่มเล่นในแนวป๊อปแจ๊ส
และฟิวชั่นแจ๊ส
ซึ่งนับว่าเป็นนักดนตรีคนหนึ่งในแนวฟิวชั่นแจ๊สรุ่นบุกเบิกของไทย ในขณะที่เป็นนักดนตรีแบ็คอัพนั้น
เป้าได้บันทึกเสียงกลองและเล่นแบ็คอัพให้กับศิลปินในยุคนั้นอย่างมากมาย เช่นวง PM5 ที่มี ดอน สอนระเบียบ นักร้องชื่อดังเป็นนักร้องนำ
รวมถึงศิลปินเพลงลูกกรุงอย่างสวลี ผกาพันธุ์, สุเทพ วงศ์กำแหง, ศรีไศล สุชาติวุฒิ อำนาจ ลูกจันทร์
ได้เข้าร่วมวงคาราบาวในฐานะมือกลองและเพอร์คัสชั่นในปี พ.ศ. 2526
ในชุด ท.ทหารอดทน อันเป็นอัลบั้มชุดที่ 4 ของคาราบาว พร้อมกับ เทียรี่ เมฆวัฒนา, อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และ ไพรัช เพิ่มฉลาด ซึ่งเป็นเพื่อนนักดนตรีร่วมห้องอัดเดียวกัน
จากนั้นได้ออกจากราชการทหารเรืออย่างเต็มตัว
นับได้ว่าเป้าประสบความสำเร็จ และมีชื่อเสียงให้กับวงคาราบาวอย่างมากในฐานะมือกลองจากความสำเร็จของอัลบั้ม
เมด อิน ไทยแลนด์ ที่สามารถทำยอดขายได้ถึง 5,000,000 ตลับ ซึ่งเป็นยอดขายอัลบั้มที่สูงที่สุดในประเทศไทย และได้เล่นคอนเสิร์ตใหญ่ของวงหลายครั้งเช่น คอนเสิร์ตทำโดยคนไทย ที่สนามกีฬาเวโลโดรม หัวหมาก ในต้นปี พ.ศ. 2528
ที่มีผู้ชมมากกว่า 60,000 คน โดยเป้าได้โซโล่กลองเพลง
ท.ทหารอดทน เพื่อเปิดคอนเสิร์ต, คอนเสิร์ตรับใช้ชาติ
ที่สวนสยาม ซึ่งเป็นภาคต่อของคอนเสิร์ตทำโดยคนไทย และยังได้ออกทัวร์คอนเสิร์ตที่สหรัฐอเมริกาอีกด้วยบทบาทของเป้าในวง คือ การเป็นมือกลองและเพอร์คัสชั่นโดยไม่ได้ร้องเพลงหรือร้องประสานเสียง เรียกได้ว่าเป็นสมาชิกเพียงคนเดียวของวงที่ไม่เคยร้องเพลงหรือร้องประสานเสียงเลยแม้แต่เพลงเดียว ในปี พ.ศ. 2533 เป้า พร้อมเทียรี่ และอ.ธนิสร์ ได้แยกออกมาจากวงหลังออกอัลบั้มชุดที่ 9 ทับหลัง และต่อมาได้ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกในชีวิตของพวกตน ชื่อชุด ขอเดี่ยวด้วยคนนะ ซึ่งเป้าก็ทำหน้าที่ตีกลองและเพอร์คัสชั่นโดยไม่ได้ร้องเพลงหรือร้องประสานเสียงอีกเช่นเคย แต่ได้แต่งเพลงไว้หนึ่งเพลงในอัลบั้มคือเพลง ศึกบางระจัน จากนั้น ทั้งเป้า เทียรี่ และ อ.ธนิสร์ ก็ได้แยกย้ายกันไปตามเส้นทางชีวิตของแต่ละคน ต่อมาในปี พ.ศ. 2541 ก็มีผลงานเดี่ยวของตัวเองครั้งแรก ชื่อชุด นักร้องจำเป็น ร่วมกับวงการบูร และต่อมา เป้ามีกิจการส่วนตัวคือ ผลิตเพอร์คัสชั่นจำหน่าย ในยี่ห้อ Pearl และเปิดโรงเรียนสอนดนตรีที่บ้านของตนเอง เน้นในเครื่องดนตรีประเภทตีและประกอบจังหวะ และยังมาร่วมงานกับคาราบาวเป็นประจำเมื่อมีคอนเสิร์ตครั้งสำคัญ ๆ ในวันที่ 1 - 2 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ในคอนเสิร์ต 25 ปี คาราบาว บาวเบญจเพส ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เป้า คาราบาว ได้ขึ้นคอนเสิร์ตเป็นแขกรับเชิญของวง และได้ร้องเพลงในคอนเสิร์ตของคาราบาวเป็นครั้งแรกในเพลง ร้านเหล้าริมทาง โดยเป็นเพลงแรกและเพลงเดียวที่เป้าร้องให้กับวงคาราบาว ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2551 เป้าป่วยเป็นอัมพฤกษ์ซึ่งเป็นผลจากการผ่าตัดหมอนรองกระดูกต้นคอและทำบอลลูนหัวใจ ทำให้แขนไม่มีแรงพอที่จะตีกลองได้หนัก ๆ เหมือนเก่า และมีชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากแยกออกมาอยู่ลำพังเพียงคนเดียว ภรรยาที่แต่งงานอยู่กินกันมานานกว่า 40 ปี ก็แยกทางกันไป แต่ก็ยังได้รับเชิญไปเป็นนักดนตรีพิเศษเล่นในกรณีสำคัญต่าง ๆ และเป็นอาจารย์พิเศษทางสถาบันดนตรีบางแห่ง เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2552 เป้าได้เข้ารับการผ่าตัดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และทำบอลลูนหัวใจที่โรงพยาบาลตากสิน ทำให้ไม่สามารถเดินได้เหมือนปกติ โดยต้องนั่งบนรถเข็นและหากยืนนาน ๆ ต้องใช้ไม้เท้าช่วย ทำให้ไม่สามารถเล่นดนตรีได้ ต่อมาในวันที่ 22 ตุลาคม ปีเดียวกันนั้น ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้เป้าเป็นบุคคลล้มละลายอันเนื่องจากหนี้สินจำนวนมากที่ไม่สามารถชดใช้ได้จากการทำธุรกิจแล้วล้มเหลวจากการกู้ยืมเงินจากธนาคาร แต่ศาลเห็นว่าเป้าและภรรยาเก่ายังมีหนทางเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้ ศาลจึงมีคำสั่งเลื่อนนัดพร้อมคู่ความออกไปเป็นวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 09:30 น.

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น