บทบาทของเป้าในวง คือ การเป็นมือกลองและเพอร์คัสชั่นโดยไม่ได้ร้องเพลงหรือร้องประสานเสียง เรียกได้ว่าเป็นสมาชิกเพียงคนเดียวของวงที่ไม่เคยร้องเพลงหรือร้องประสานเสียงเลยแม้แต่เพลงเดียว ในปี พ.ศ. 2533 เป้า พร้อมเทียรี่ และอ.ธนิสร์ ได้แยกออกมาจากวงหลังออกอัลบั้มชุดที่ 9 ทับหลัง และต่อมาได้ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกในชีวิตของพวกตน ชื่อชุด ขอเดี่ยวด้วยคนนะ ซึ่งเป้าก็ทำหน้าที่ตีกลองและเพอร์คัสชั่นโดยไม่ได้ร้องเพลงหรือร้องประสานเสียงอีกเช่นเคย แต่ได้แต่งเพลงไว้หนึ่งเพลงในอัลบั้มคือเพลง ศึกบางระจัน จากนั้น ทั้งเป้า เทียรี่ และ อ.ธนิสร์ ก็ได้แยกย้ายกันไปตามเส้นทางชีวิตของแต่ละคน ต่อมาในปี พ.ศ. 2541 ก็มีผลงานเดี่ยวของตัวเองครั้งแรก ชื่อชุด นักร้องจำเป็น ร่วมกับวงการบูร และต่อมา เป้ามีกิจการส่วนตัวคือ ผลิตเพอร์คัสชั่นจำหน่าย ในยี่ห้อ Pearl และเปิดโรงเรียนสอนดนตรีที่บ้านของตนเอง เน้นในเครื่องดนตรีประเภทตีและประกอบจังหวะ และยังมาร่วมงานกับคาราบาวเป็นประจำเมื่อมีคอนเสิร์ตครั้งสำคัญ ๆ ในวันที่ 1 - 2 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ในคอนเสิร์ต 25 ปี คาราบาว บาวเบญจเพส ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เป้า คาราบาว ได้ขึ้นคอนเสิร์ตเป็นแขกรับเชิญของวง และได้ร้องเพลงในคอนเสิร์ตของคาราบาวเป็นครั้งแรกในเพลง ร้านเหล้าริมทาง โดยเป็นเพลงแรกและเพลงเดียวที่เป้าร้องให้กับวงคาราบาว ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2551 เป้าป่วยเป็นอัมพฤกษ์ซึ่งเป็นผลจากการผ่าตัดหมอนรองกระดูกต้นคอและทำบอลลูนหัวใจ ทำให้แขนไม่มีแรงพอที่จะตีกลองได้หนัก ๆ เหมือนเก่า และมีชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากแยกออกมาอยู่ลำพังเพียงคนเดียว ภรรยาที่แต่งงานอยู่กินกันมานานกว่า 40 ปี ก็แยกทางกันไป แต่ก็ยังได้รับเชิญไปเป็นนักดนตรีพิเศษเล่นในกรณีสำคัญต่าง ๆ และเป็นอาจารย์พิเศษทางสถาบันดนตรีบางแห่ง เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2552 เป้าได้เข้ารับการผ่าตัดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และทำบอลลูนหัวใจที่โรงพยาบาลตากสิน ทำให้ไม่สามารถเดินได้เหมือนปกติ โดยต้องนั่งบนรถเข็นและหากยืนนาน ๆ ต้องใช้ไม้เท้าช่วย ทำให้ไม่สามารถเล่นดนตรีได้ ต่อมาในวันที่ 22 ตุลาคม ปีเดียวกันนั้น ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้เป้าเป็นบุคคลล้มละลายอันเนื่องจากหนี้สินจำนวนมากที่ไม่สามารถชดใช้ได้จากการทำธุรกิจแล้วล้มเหลวจากการกู้ยืมเงินจากธนาคาร แต่ศาลเห็นว่าเป้าและภรรยาเก่ายังมีหนทางเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้ ศาลจึงมีคำสั่งเลื่อนนัดพร้อมคู่ความออกไปเป็นวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 09:30 น.
วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2559
ประวัติ เป้า คาราบาว (อำนาจ ลูกจันทร์)
บทบาทของเป้าในวง คือ การเป็นมือกลองและเพอร์คัสชั่นโดยไม่ได้ร้องเพลงหรือร้องประสานเสียง เรียกได้ว่าเป็นสมาชิกเพียงคนเดียวของวงที่ไม่เคยร้องเพลงหรือร้องประสานเสียงเลยแม้แต่เพลงเดียว ในปี พ.ศ. 2533 เป้า พร้อมเทียรี่ และอ.ธนิสร์ ได้แยกออกมาจากวงหลังออกอัลบั้มชุดที่ 9 ทับหลัง และต่อมาได้ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกในชีวิตของพวกตน ชื่อชุด ขอเดี่ยวด้วยคนนะ ซึ่งเป้าก็ทำหน้าที่ตีกลองและเพอร์คัสชั่นโดยไม่ได้ร้องเพลงหรือร้องประสานเสียงอีกเช่นเคย แต่ได้แต่งเพลงไว้หนึ่งเพลงในอัลบั้มคือเพลง ศึกบางระจัน จากนั้น ทั้งเป้า เทียรี่ และ อ.ธนิสร์ ก็ได้แยกย้ายกันไปตามเส้นทางชีวิตของแต่ละคน ต่อมาในปี พ.ศ. 2541 ก็มีผลงานเดี่ยวของตัวเองครั้งแรก ชื่อชุด นักร้องจำเป็น ร่วมกับวงการบูร และต่อมา เป้ามีกิจการส่วนตัวคือ ผลิตเพอร์คัสชั่นจำหน่าย ในยี่ห้อ Pearl และเปิดโรงเรียนสอนดนตรีที่บ้านของตนเอง เน้นในเครื่องดนตรีประเภทตีและประกอบจังหวะ และยังมาร่วมงานกับคาราบาวเป็นประจำเมื่อมีคอนเสิร์ตครั้งสำคัญ ๆ ในวันที่ 1 - 2 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ในคอนเสิร์ต 25 ปี คาราบาว บาวเบญจเพส ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เป้า คาราบาว ได้ขึ้นคอนเสิร์ตเป็นแขกรับเชิญของวง และได้ร้องเพลงในคอนเสิร์ตของคาราบาวเป็นครั้งแรกในเพลง ร้านเหล้าริมทาง โดยเป็นเพลงแรกและเพลงเดียวที่เป้าร้องให้กับวงคาราบาว ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2551 เป้าป่วยเป็นอัมพฤกษ์ซึ่งเป็นผลจากการผ่าตัดหมอนรองกระดูกต้นคอและทำบอลลูนหัวใจ ทำให้แขนไม่มีแรงพอที่จะตีกลองได้หนัก ๆ เหมือนเก่า และมีชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากแยกออกมาอยู่ลำพังเพียงคนเดียว ภรรยาที่แต่งงานอยู่กินกันมานานกว่า 40 ปี ก็แยกทางกันไป แต่ก็ยังได้รับเชิญไปเป็นนักดนตรีพิเศษเล่นในกรณีสำคัญต่าง ๆ และเป็นอาจารย์พิเศษทางสถาบันดนตรีบางแห่ง เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2552 เป้าได้เข้ารับการผ่าตัดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และทำบอลลูนหัวใจที่โรงพยาบาลตากสิน ทำให้ไม่สามารถเดินได้เหมือนปกติ โดยต้องนั่งบนรถเข็นและหากยืนนาน ๆ ต้องใช้ไม้เท้าช่วย ทำให้ไม่สามารถเล่นดนตรีได้ ต่อมาในวันที่ 22 ตุลาคม ปีเดียวกันนั้น ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้เป้าเป็นบุคคลล้มละลายอันเนื่องจากหนี้สินจำนวนมากที่ไม่สามารถชดใช้ได้จากการทำธุรกิจแล้วล้มเหลวจากการกู้ยืมเงินจากธนาคาร แต่ศาลเห็นว่าเป้าและภรรยาเก่ายังมีหนทางเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้ ศาลจึงมีคำสั่งเลื่อนนัดพร้อมคู่ความออกไปเป็นวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 09:30 น.
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น